คำสั่งคำร้องที่ 193/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า รับฎีกาเฉพาะข้อ 2 ข. ในส่วนฎีกาเฉพาะค่าเสียหายของโจทก์ที่ 2 เท่านั้น ส่วนฎีกา เฉพาะค่าเสียหายของโจทก์ที่ 1 ข้อ 2 ก. เห็นว่าราคาทุนทรัพย์ พิพาทขึ้นสู่ศาลฎีกาไม่เกิน 200,000 บาท ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกาของจำเลยส่วนนี้ และที่จำเลย ฎีกาว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย เมื่อตรวจดูแล้วก็ไม่ใช่ข้อกฎหมาย จึงไม่รับฎีกาส่วนนี้ด้วย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาข้อ 2 ก. ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เพราะค่าเสียหายที่โจทก์ที่ 1 เรียกร้องเอาจากจำเลยนั้น ไม่อาจที่จะกำหนดจำนวนที่แน่นอนถูกต้องได้ โดยหลักกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 11 ต้องตีความในทางที่เป็นคุณแก่จำเลย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาข้อ 2 ก. ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1เป็นเงิน 200,000 บาท และให้แก่โจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 200,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้อง(วันที่ 28 กันยายน 2533) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ที่ 2 จำนวน 350,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ทั้งสองและจำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับเฉพาะ ฎีกาค่าเสียหายของโจทก์ที่ 2 เท่านั้น (อันดับ 143,139)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 146)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าการกำหนดค่าเสียหายเป็นดุลพินิจของศาลการกำหนดค่าเสียหายไม่ใช่การตีความกฎหมายดังจำเลยอ้าง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลยข้อ 2 ก. ชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ให้ยกคำร้อง

Share