แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเช่าซึ่งกำหนดวันให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าไว้แน่นอนแล้ว ถ้าผู้เช่าผิดสัญญาชำระค่าเช่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ทันที โดยมิพักต้องบอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าที่ดินโจทก์ ๖ ไร่ ทำไร่มีกำหนด ๓ ปี คือปี ๒๔๙๗-๒๔๙๙ ค่าเช่าไร่ละ ๑๕ บาทต่อปี จำเลยชำระให้ ๑ ปีแล้ว ส่วนค่าเช่าต่อไปจำเลยตกลงว่าจะชำระให้ภายใน ๑๕ ม.ย.ของทุกปี ถ้าผิดสัญญายอมให้โจทก์ขับไล่ เมื่อถึงกำหนดชำระค่าเช่าปี ๒๔๙๘ โจทก์ไปขอรับเงินค่าเช่าจำเลยว่าไม่มี ต่อมา ๑๕ มิ.ย.๒๔๙๙ โจทก์ไปขอรับเงินค่าเช่าอีก จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้เช่าที่ดินของโจทก์ ๆ จึงฟ้องขับไล่จำเลย
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลจึงสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ พิจารณาพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว และจำเลยได้สาบานตนให้การเป็นพยานเอง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ขับไล่จำเลย
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาวินิจฉัยได้เฉพาะข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกาคัดค้านข้อเดียวที่ว่า กรณีเรื่องค้างชำระค่าเช่า เมื่อโจทก์มิได้บอกเลิกสัญญา จะฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้นั้น เห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความชัดว่าจำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ตามกำหนด และกลับโต้เถียงว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ จำเลยไม่เคยเช่า เช่นนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยโดยไม่ต้องบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยก่อน พิพากษายืน