แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง และปรากฏว่าผู้พิพากษาที่ได้นั่ง พิจารณาคดีในศาลชั้นต้นไม่รับรองให้ฎีกาในข้อเท็จจริงจึงไม่รับฎีกา
ผู้ร้องเห็นว่า ฎีกาของผู้ร้องข้อ 2.1 และ 2.2 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงแต่คดีในชั้นของผู้ร้องเป็นคดี ขอปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ คดีของผู้ร้อง จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาข้อ 2.3และ 2.4 นั้นเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบ เรียบร้อยของประชาชนที่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและ ศาลอุทธรณ์ และเป็นสาระสำคัญแห่งคดีอันควรได้รับการวินิจฉัย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของผู้ร้องด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ทั้งสองได้รับสำเนาคำร้อง
คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสอง ร่วมกันรื้อถอนกำแพงคอนกรีต และพื้นคอนกรีตในกำแพงให้พ้นจาก ทางเข้าออกหน้าตึกแถวของโจทก์ และทำทางเข้าออกให้มีพื้นที่ กว้างเท่าเดิม ถ้าจำเลยทั้งสองไม่รื้อถอน ให้โจทก์เป็น ผู้รื้อถอนโดยจำเลยเป็นคนออกค่าใช้จ่าย จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของโจทก์ในส่วนที่ ให้โจทก์รื้อถอนกำแพงและพื้นคอนกรีตโดยจำเลยเป็นผู้ออก ค่าใช้จ่ายนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีถึงที่สุด จำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามคำบังคับศาลชั้นต้น หมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการให้เป็นไป ตามคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ แต่ผู้เดียวในที่ดินโฉนดเลขที่ 3171 และ 58866 แขวงบางซื่อ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2527 ผู้ร้องได้ทำการเทพื้นและสร้างรั้วกำแพงคอนกรีตลงบนที่ดินโฉนด เลขที่ 3171 เพื่อใช้เป็นที่เก็บของและจอดรถของผู้ร้อง โดยเว้นพื้นที่เป็นช่องทางให้ผู้เป็นเจ้าของที่ดินข้างเคียง อาศัยเป็นทางเข้าออกสู่ถนนสาธารณะได้ ต่อมาเมื่อวันที่21 มิถุนายน 2533 มีหมายเจ้าพนักงานบังคับคดีปิดประกาศที่กำแพงคอนกรีตที่ผู้ร้องสร้างไว้บังคับให้จำเลยและบริวาร ปฏิบัติตามคำพิพากษา หมายบังคับคดีดังกล่าวจึงเป็นการโต้แย้ง สิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกและไม่ใช่บริวาร ของจำเลยทั้งสอง คำพิพากษาของศาลไม่ผูกพันผู้ร้อง ผู้ร้อง จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา ขอให้ศาลมีคำสั่งงดการบังคับคดีตามหมายบังคับ และปล่อยทรัพย์ ที่จะต้องถูกบังคับ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของ ผู้ร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 91)
ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 94)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้โจทก์ทั้งสองฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำละเมิดโดยสร้างกำแพงคอนกรีตและเทพื้นคอนกรีตหลังตึกแถว ที่จำเลยทั้งสองครอบครอง ปิดกั้นทางเดินหน้าตึกแถวของ โจทก์ทั้งสอง ซึ่งเจ้าของเดิมได้อุทิศให้เป็นทางสาธารณะ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรื้อกำแพงและพื้นคอนกรีตออกไป คำฟ้องดังกล่าวเป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณ เป็นเงินได้ และศาลได้พิพากษาให้จำเลยทั้งสองรื้อถอน สิ่งก่อสร้างดังกล่าวออกไป คดีถึงที่สุดแล้ว และผู้ร้องสอด ได้ร้องเข้ามาในชั้นบังคับคดีอ้างว่าหมายบังคับคดีดังกล่าว ได้โต้แย้งสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอก ขอให้ศาล มีคำสั่งงดการบังคับคดีตามหมายบังคับคดี และปล่อยทรัพย์ ที่จะต้องถูกบังคับคดี นั้น เป็นคดีที่สืบเนื่องจากคดีเดิม การดำเนินคดีตามคำร้องดังกล่าวจึงเป็นคดีฟ้องขอให้ ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นเงินได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ซึ่งไม่ต้องห้ามให้ผู้ร้องฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ให้รับฎีกา ของผู้ร้อง และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป