คำสั่งคำร้องที่ 1920/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ทั้งสองได้ยื่นฎีกาในวันที่ 15 มีนาคม 2536และในวันเดียวกันศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ และสั่งให้โจทก์ทั้งสองนำส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยภายใน 15 วันหากไม่ส่งภายในกำหนดให้ถือว่าโจทก์ทั้งสองทิ้งฎีกา จึงถือว่า โจทก์ทั้งสองได้ทราบคำสั่งให้ส่งสำเนาฎีกานับตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2536 แล้ว ดังนั้นการที่โจทก์ทั้งสองมาวางเงินค่านำหมาย และนำส่งหมายและสำเนาฎีกาในวันที่ 5 เมษายน 2536 จึงพ้นกำหนด 15 วันตามคำสั่งศาล จึงเป็นการที่โจทก์ทั้งสองจงใจทิ้งฎีกา ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งว่าโจทก์ทั้งสองจงใจทิ้งฎีกา และให้ จำหน่ายฎีกาของโจทก์ทั้งสองออกจากสารบบความ โปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสองยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน142,900 บาท แก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2 พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2531เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า รับฎีกาสำเนา ให้จำเลยให้โจทก์ทั้งสองนำส่งสำเนาให้จำเลยภายใน 15 วันมิฉะนั้นถือว่าทิ้งฎีกา (อันดับ 220)
ต่อมาเจ้าหน้าที่รายงานศาลว่าวันนี้ (5 เมษายน 2536)โจทก์ได้มาวางค่านำส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยซึ่งเกินระยะเวลา ที่ศาลกำหนดโดยอ้างว่าหลงลืม จึงรายงานมา เพื่อโปรดพิจารณา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ยื่นฎีกาในวันที่ 15 มีนาคม 2536 ศาลมีคำสั่งในวันที่ 16 มีนาคม 2536 จะถือว่าโจทก์ทราบคำสั่ง ยังไม่ได้โจทก์นำส่งสำเนาฎีกาในวันนี้ได้ (อันดับ 222)
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 230)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นมิได้สั่งรับฎีกาในวันเดียวกับวันที่โจทก์ยื่นฎีกาและไม่ได้แจ้งคำสั่งให้โจทก์ทราบจึงยังถือไม่ได้ว่าโจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินการส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยภายใน 15 วันตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดอันจะถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2),247 ได้ ให้ยกคำร้องของ จำเลย โดยให้ศาลชั้นต้น ดำเนินการต่อไป ค่าคำร้องเป็นพับ

Share