แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ที่ว่า กิจการซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ให้สัตยาบันไว้มีผลบังคับได้ตามกฎหมายหรือไม่ตามมาตรา 1108(2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นฎีกา ในปัญหาข้อกฎหมายที่เป็นสาระสำคัญแก่คดีอันควรได้รับการ วินิจฉัย จากศาลสูง และการที่โจทก์ฟ้องจำเลยว่าผิดสัญญาเช่า และขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่า ขณะยื่นฟ้องเดือนละ 20,000 บาท จึงเป็นกรณีเข้าข้อยกเว้น ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 248 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง สามารถฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 92 แผ่นที่ 4) โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างชำระพร้อม ดอกเบี้ยถึงวันที่สัญญาเช่าเลิกกันเป็นเงินจำนวน 101,333 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของจำนวนเงินค่าเช่า ที่ค้างชำระ นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระ ให้โจทก์เสร็จสิ้น และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็น เงินจำนวน 60,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่า จำเลยจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น และให้ชดใช้ค่าเสียหาย ให้แก่โจทก์เป็นรายเดือน เดือนละ 30,000 บาท นับแต่วันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจาก สถานที่เช่า และส่งมอบสถานที่เช่าคืนแก่โจทก์เสร็จสิ้น และ ให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากสถานที่เช่าและห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้ามาเกี่ยวข้องในสถานที่เช่าอีกต่อไป จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องและฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 89) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 91)
คำสั่ง คดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์ มี ค่าเช่าขณะยื่นฟ้องเกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท จึงไม่ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสอง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์จึงไม่ชอบ คดีไม่ต้องมีคำสั่งคำร้องของ โจทก์ข้ออื่นอีก ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้ดำเนินการต่อไป