คำสั่งคำร้องที่ 1850/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยขอให้เพิ่มเติมคำพิพากษาศาลฎีกาที่พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ขนดินที่ถมออกไปจากที่ดินของจำเลยและทำรั้วของจำเลยให้กลับไปตามแนวรั้วเดิมให้มีข้อความว่าหากโจทก์ไม่จัดการ ให้จำเลยมีอำนาจจัดการขนดินและทำรั้วของจำเลยให้มีสภาพเดิมโดยให้โจทก์เป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายด้วยนั้น เป็นวิธีการบังคับคดีที่จำเลยอาจขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการได้อยู่แล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ทวิ มิใช่กรณีที่คำพิพากษาศาลฎีกามีข้อผิดพลาดเล็กน้อยตามมาตรา 143

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้โจทก์จัดการขนดินที่ถมออกจากที่พิพาทของจำเลย และให้จัดการทำรั้วของจำเลยกลับสู่แนวรั้วเดิม กับให้โจทก์จัดการรื้อชายคาอาคารส่วนที่รุกล้ำเข้ามาออกไปจากที่ดินของจำเลย ให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า ที่ดินพิพาทในกรอบเส้นสีดำก.ข.ค.ง. ในแผนที่พิพาทเป็นของโจทก์อยู่ในเขตโฉนดที่ดินเลขที่1587 เลขที่ 29 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานครให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างกำแพงรั้วสังกะสีออกไปจากที่ดินของโจทก์ให้จำเลยทำที่ดินของโจทก์ให้เรียบร้อยดังเดิม ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 1,020 บาท นับแต่วันฟ้อง(วันที่ 28 กรกฎาคม 2530) จนกว่าจำเลยจะรื้อถอนรั้วสังกะสีออกไปจากที่ดินของโจทก์และทำที่ดินให้เรียบร้อยดังเดิมให้ยกฟ้องแย้งจำเลย ที่โจทก์ขอว่าหากจำเลยไม่รื้อถอนรั้วสังกะสี ให้โจทก์มีอำนาจรื้อถอนโดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายนั้นเป็นขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการในชั้นบังคับคดี จึงให้ยกคำขอในข้อนี้
ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ขนดินที่ถมออกไปจากที่ดินของจำเลยและทำรั้วของจำเลยให้กลับไปตามแนวรั้วเดิมคำขอของจำเลยนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยยื่นคำร้องจอให้แก้ไขเพิ่มเติมคำพิพากษาศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยขอให้เพิ่มเติมคำพิพากษาศาลฎีกาว่าหากโจทก์ไม่จัดการให้จำเลยมีอำนาจจัดการขนดินและทำรั้วของจำเลยให้มีสภาพเดิมโดยให้โจทก์เป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายนั้นเป็นวิธีการบังคับคดีที่จำเลยอาจบังคับโดยขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 ทวิได้อยู่แล้ว มิใช่เป็นกรณีที่คำพิพากษาศาลฎีกามีข้อผิดพลาดเล็กน้อยตามที่อ้างมาในคำร้อง ให้ยกคำร้อง”

Share