แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสามได้ยื่นคำร้องฎีกาคัดค้านคำสั่ง(น่าจะเป็นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง) ของศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา ซึ่งมีสาระทั้งในปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง เชื่อว่าศาลฎีกาจะมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลชั้นต้นได้ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยร่วมกันและแทนกันชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นเงิน 7,224,624.21 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 7,224,624.21 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ หากจำเลยทั้งสามไม่ชำระหนี้หรือชำระหนี้แก่โจทก์ไม่ครบถ้วนให้ยึดทรัพย์จำนองของจำเลยที่ 1ออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ หากยังไม่ครบให้ยึดทรัพย์ของจำเลยทั้งสามออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้แก่โจทก์จนครบ
จำเลยทั้งสามฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง (อันดับ 226,263,279)
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลฎีกาสั่งยกคำร้อง หากจำเลยทั้งสามประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 7 วัน (อันดับ 281 แผ่นที่ 2, อันดับ 300)
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมชั้นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง (อันดับ 303)
ต่อมาจำเลยทั้งสามยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียม และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับดังกล่าว (อันดับ 306,307)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์แต่จำเลยทั้งสามไม่หาหลักประกันมาวางศาลให้ครบภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำร้องขอทุเลาการบังคับของจำเลยถูกยกไปตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ (อันดับ 202,223)
คำสั่ง
คดียังไม่มีการสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสามไว้พิจารณา จึงไม่อาจสั่งคำขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาของจำเลยทั้งสามได้ ยกคำร้อง
