คำสั่งคำร้องที่ 1830/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์แม้จะเป็นฎีกาในข้อกฎหมายแต่ก็ไม่เป็นสาระแก่คดีจึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ในประเด็นที่ว่า นางบุญเลี้ยงไม่ใช่บุตรของนางกำมาซึ่งเป็นทายาทของนางอุ้ยเจ้าของ ที่พิพาท เพราะนางกำมาไม่ได้แจ้งคนเกิดในสูติบัตรว่านางบุญเลี้ยงเป็นบุตรของตน ตามประมวลกฎหมายเกี่ยวกับทะเบียนราษฎร์ พ.ศ. 2534 มาตรา 18 ดังนั้น นางบุญเลี้ยงจึงไม่มีอำนาจขายที่พิพาทให้แก่จำเลยและสัญญาซื้อขายที่พิพาทระหว่างนางบุญเลี้ยงกับจำเลยไม่ได้ติดอากรแสตมป์ให้ถูกต้องตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 จึงเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ อีกทั้งการที่ นาง บุญเลี้ยงไม่ได้เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59 จึงนำคำเบิกความของนางบุญเลี้ยงมาประกอบการพิจารณาในคดีนี้ไม่ได้นั้น ล้วนเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เป็นสาระแก่คดี อันควรได้รับการวินิจฉัยทั้งสิ้น โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากนาพิพาท ห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไป กับให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 76)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 77)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยข้อเท็จจริง ต้องกันมาว่านางบุญเลี้ยงเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทโจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองที่พิพาท จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ จำเลยทั้งสองได้ ปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ยกขึ้นฎีกา หาทำให้โจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาทไม่ จึงไม่เป็นสาระ แก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share