คำสั่งคำร้องที่ 182/2541

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยฎีกาว่า กรณีที่ศาลนำโทษคดีอื่นซึ่งรอการลงโทษ มาบวกกับโทษในคดีนี้เป็นจำคุก 5 ปี 6 เดือน ถือว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จำคุกจำเลยเกินห้าปี ไม่ต้องห้ามฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกนั้นคำว่า “โทษในคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามมาตรา 218″หมายถึงเฉพาะโทษในคดีนั้น ๆ มิได้หมายความรวมถึงโทษในคดีอื่น ที่นำมาบวกด้วย เมื่อคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตาม ศาลชั้นต้นและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี ก็ต้องห้ามมิให้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 89 จำคุก 5 ปี ให้นำโทษจำคุก 6 เดือน ที่รอการ ลงโทษจำเลยไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 467/2537 ของศาลนี้ มาบวกกับโทษจำคุกในคดีนี้ รวมเป็นโทษจำคุก 5 ปี 6 เดือน ริบเมทแอมเฟตามีน ที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์กับคืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของความผิดฐานอื่นให้ยก
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว
จำเลยจึงยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา
ศาลฎีกาสั่งว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาสืบยืนยันว่าจำเลยได้กระทำความผิด การที่ศาลรับฟังคำพยาน บอกเล่ามาลงโทษจำเลย เป็นการไม่ชอบนั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจ ในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนในข้อที่จำเลยฎีกาว่า กรณีที่ศาล นำโทษคดีอื่นซึ่งรอการลงโทษมาบวกกับโทษในคดีนี้เป็นจำคุก 5 ปี 6 เดือน ถือว่าศาลอุทธรณ์ภาค 1 จำคุกจำเลยเกินห้าปี ไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกนั้น เห็นว่า คำว่า “โทษในคดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ตามมาตรา 218″ หมายถึงเฉพาะโทษในคดีนั้น ๆ มิได้หมายรวมถึง โทษในคดีอื่นที่นำมาบวกด้วย เมื่อคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี ก็ต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง”

Share