แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า กรณีดังกล่าวเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218,219จึงไม่รับฎีกาของโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมที่ว่า การที่ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้พิพากษาแก้โทษจำคุกจำเลยที่ 1ให้มีการรอการลงโทษไว้ 1 ปี นั้น โดยเห็นว่าจำเลยที่ 1ไม่เคยกระทำความผิดอาญามาก่อน เป็นการวินิจฉัยโดยรับฟังพยานหลักฐาน ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความว่าด้วยการรับฟังพยานหลักฐาน และฎีกาของโจทก์ร่วมที่ว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 เห็นว่า จำเลยที่ 1 ประกอบอาชีพโดยสุจริตไม่เคยกระทำผิดอาญามาก่อน การกระทำผิดของจำเลยที่ 1 เป็นเรื่องปกติธรรมดา ในการประกอบธุรกิจการค้า และโจทก์ร่วมยังมีสิทธิที่จะ ฟ้องบังคับจำเลยที่ 1 ให้ชำระหนี้ในทางแพ่งได้ อีกทั้ง พฤติการณ์แห่งคดีถือว่าไม่ร้ายแรง โดยให้รอการลงโทษ จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ก่อน เป็นการที่ศาลอุทธรณ์รับฟังพยานหลักฐาน ที่ไม่ปรากฏอยู่ในสำนวนความมาประกอบในการลงโทษจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วม ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ระหว่างพิจารณา ห้างหุ้นส่วนจำกัดบีแอลอีควิปเมนท์ ผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4(1)(2) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เรียงกระทงลงโทษตามมาตรา 91 จำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 2 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก 4 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 ปรับกระทงละ 10,000 บาท รวม 2 กระทง ปรับ 20,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษของจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษของจำเลยที่ 1และนับโทษของจำเลยที่ 2 ต่อจากโทษของจำเลยที่ 2 ในคดีอาญา หมายเลขดำที่ 2897/2535 ของศาลนี้ เห็นว่าคดีดังกล่าว ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษา จึงไม่นับโทษต่อให้ ยกคำขอ ในส่วนนี้เสีย ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 กระทงละ 10,000 บาท รวม 2 กระทง ปรับ 20,000 บาท อีกสถานหนึ่ง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไป ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 91) โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 93)
คำสั่ง โจทก์ร่วมฎีกาขอให้ไม่รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1เป็นฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1ของศาลอุทธรณ์ภาค 3 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง