แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ไม่มีเหตุที่จักขยายให้ ให้ยกคำร้อง ฯลฯ
จำเลยเห็นว่า คดีนี้ครบกำหนดยื่นฎีกาวันที่ 16 กรกฎาคม 2530แต่เนื่องจากจำเลยไปทำธุรกิจที่ต่างจังหวัดและเพิ่งทราบเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2530 ว่าทนายจำเลยไม่ได้ยื่นฎีกาต่อศาลจึงเป็นการสุดวิสัยที่จำเลยจะหาทนายใหม่ได้ทัน นับว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23ที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยขยายระยะเวลายื่นฎีกาได้ โปรดมีคำสั่งให้ขยายเวลายื่นฎีกาออกไป 10 วันนับแต่วันทราบคำสั่งศาลฎีกา
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 71 แผ่นที่ 3)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยชำระเงินจำนวน 200,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 25 สิงหาคม2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยเมื่อคำนวณถึงวันฟ้องมิให้เกินกว่า 7,500 บาทด้วย
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 16มิถุนายน 2530
จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 66)
จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาอ้างว่าจำเลยยื่นฎีกาพ้นกำหนด จึงไม่รับฎีกา (อันดับ 69,68)
คำสั่ง
การอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ผู้ร้องขยายระยะเวลายื่นฎีกา ผู้ร้องต้องอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ตามลำดับชั้นของศาลการอุทธรณ์คำสั่งตรงมายังศาลฎีกา เป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ