คำสั่งคำร้องที่ 1779/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้นแล้วให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำบอกกล่าวใหม่ และศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งในคำบอกกล่าว อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ จำหน่ายคดี ซึ่งจำเลยทั้งสองได้ลงชื่อรับทราบที่หน้าปกสำนวนเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2531แต่มิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องผลของการถอนฟ้องย่อมทำให้คดีเสร็จสิ้นไปจากศาลฎีกาของจำเลยคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้รับคำบอกกล่าวของโจทก์แม้เป็นข้อกฎหมายแต่เมื่อคดีเสร็จสิ้นแล้ว ฎีกาของจำเลยย่อมไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225จึงไม่รับ
จำเลยทั้งสองเห็นว่า จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 243 วรรคท้าย แต่จำเลยทั้งสองยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำบอกกล่าวของโจทก์ใหม่ซึ่งเป็นการฎีกาคัดค้านคำพิพากษาและคำสั่งศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 อีกทั้งฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาที่ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแต่อย่างใด ซึ่งหากศาลฎีกามีคำพิพากษากลับคำพิพากษาและคำสั่งศาลอุทธรณ์แล้ว คำพิพากษาและคำสั่งศาลอุทธรณ์ย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันจะส่งผลให้คำสั่งในคำบอกกล่าวของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย เมื่อจำเลยทั้งสองยื่นฎีกาภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดอีกทั้งเป็นฎีกาที่ไม่ต้องห้ามคดีจึงยังไม่ถึงที่สุดหรือเสร็จสิ้นไปจากศาลตามคำสั่งของศาลชั้นต้นแต่อย่างใดโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 33)
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 45,203.74 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงิน 43,000 บาทนับตั้งแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและนัดสืบพยานโจทก์ ถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และจำเลยทั้งสองมาศาล ปรากฏว่าโจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ คดีเสร็จการพิจารณานัดฟังคำพิพากษาในวันเดียวกัน แต่ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาโจทก์ยื่นคำบอกกล่าวขอถอนคำฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าศาลเสร็จการพิจารณาคดีแล้วบอกกล่าวไม่ได้ให้ยกคำบอกกล่าว แล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาและคำสั่งของศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำบอกกล่าวของโจทก์ใหม่
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับดังกล่าว(อันดับ 28)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 31)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่ให้ยกคำพิพากษาและคำสั่งศาลชั้นต้น แล้วให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำบอกกล่าวของโจทก์ใหม่ว่าชอบหรือไม่นั้น ย่อมเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย เนื่องจากเป็นข้อกฎหมายที่มีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของโจทก์และจำเลยทั้งสอง จึงให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้ดำเนินการต่อไป

Share