คำสั่งคำร้องที่ 1768/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฟ้อง พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว เห็นว่า นายชูกิจตันติวิรมานนท์ หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างโจทก์ถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลายและศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว สิทธิต่าง ๆในการจัดการเกี่ยวกับทรัพย์สิน รวมทั้งสิทธิในการฟ้องร้องและต่อสู้คดี ย่อมอยู่ในอำนาจจัดการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย นายชูกิจ ตันติวิรมานนท์จึงไม่มีอำนาจในการที่จะมอบอำนาจให้ นายอัมพรตันติวิรมานนท์มาดำเนินกระบวนพิจารณาในศาล โดยร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในคดีนี้ได้ และคดีของโจทก์ไม่มีมูลที่จะฟ้องร้อง จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์เห็นว่า แม้นายชูกิจ ตันติวิรมานนท์ ถูกฟ้องให้ล้มละลาย ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของนายชูกิจเองเท่านั้น แต่นายชูกิจก็ยังมิได้ถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย จึงยังมีอำนาจจัดการทรัพย์สินของห้างโจทก์ รวมทั้งฟ้องร้องคดีแทนห้างโจทก์ได้ และการที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยอุทธรณ์ สั่งให้โจทก์ชำระค่าภาษี 20,065,129.95 บาท นั้นเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์และทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ถือได้ว่าคดีโจทก์มีมูลที่จะฟ้องร้องได้แล้ว นอกจากนี้ถ้าหากศาลเห็นว่านายชูกิจ ไม่มีความสามารถจัดการแทนห้างโจทก์ได้ ศาลก็ชอบที่จะสั่งให้ห้างโจทก์แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถเพื่อให้ดำเนินคดีต่อไปได้ ขอศาลฎีกาได้โปรดมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาด้วย
หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสี่ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 30)
โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมมา 200 บาท
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งให้เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินเพิ่มของเจ้าพนักงานประเมินภาษีที่ 1070/2/03389,03390ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2525 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ 286 ก.ข/2530/1 ลงวันที่ 29 กันยายน 2530 และมีคำสั่งให้งดหรือลดเงินเพิ่มภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่โจทก์ด้วย พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาดังกล่าว (อันดับ 26)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 28)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว แม้นายชูกิจ ตันติวิรมานนท์หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างโจทก์ถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลายและศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว แต่การจัดกิจการของห้างโจทก์หาได้ตกไปอยู่ในอำนาจจัดการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ด้วยไม่ เมื่อนายชูกิจยังคงเป็นผู้จัดการของห้างโจทก์อยู่ย่อมมีอำนาจในการที่จะมอบอำนาจให้นายอัมพรตันติวิรมานนท์ดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลได้ สำหรับข้อที่โจทก์ขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถานั้น ตามทางไต่สวน ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นคนยากจนถึงกับไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมในศาลชั้นต้น ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ การดำเนินคดีชั้นนี้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ให้คืนค่าคำร้องแก่โจทก์หากโจทก์ยังติดใจดำเนินคดีต่อไป ก็ให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งนี้

Share