คำสั่งคำร้องที่ 1738/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยอุทธรณ์และได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขอุทธรณ์ศาลแรงงานกลางสั่งว่าอุทธรณ์ของโจทก์ (น่าจะเป็น จำเลย) เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้าม จึงไม่รับ และสั่งคำร้องว่าศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์แล้ว จึงไม่รับคำร้องนี้
จำเลยเห็นว่า ประการแรกตามอุทธรณ์ของจำเลยและคำร้องขอแก้ไขอุทธรณ์ฉบับลงวันที่ 4 กันยายน 2529 นั้น อุทธรณ์ของจำเลยเป็นการอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางว่าการกระทำของจำเลยหาใช่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมไม่ ประการที่สอง อุทธรณ์ที่ว่า การเลิกจ้างโจทก์นั้น จำเลยมีเหตุอันควรเลิกจ้างได้ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง คุ้มครองแรงงาน ข้อ 47 และประการที่สาม อุทธรณ์ที่ว่า ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยคดีขัดต่อพยานหลักฐานในสำนวน เนื่องจากปรากฏหลักฐานชัดแจ้งว่างบดุลปี2526 และปี 2527 มีผลขาดทุนถึง 27 ล้านบาทเศษ อุทธรณ์ของจำเลยและคำร้องขอแก้ไขอุทธรณ์ จึงเป็นการอุทธรณ์ในข้อกฎหมายโปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์และคำร้องขอแก้ไขอุทธรณ์ของจำเลยด้วยหมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 57)
ศาลแรงงานกลางพิพากษา ให้จำเลยชำระค่าเสียหาย 60,000 บาทและค่าทำงานในวันหยุดพักผ่อนประจำปี 480.83 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวข้างต้น นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอแก้ไขอุทธรณ์ลงวันที่ 4 กันยายน2529 ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 46,49)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 50)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยอุทธรณ์ว่ามีสาเหตุแห่งการเลิกจ้างเป็นไปตามคำให้การนั้น เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์และไม่รับคำร้องขอแก้ไขอุทธรณ์ของจำเลยมานั้นชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share