แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งเจ็ดฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำสั่งทุเลาการบังคับของศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด จึงไม่รับฎีกาคัดค้านคำสั่งของโจทก์ทั้งเจ็ด ค่าขึ้นศาลให้เป็นพับ โจทก์ทั้งเจ็ดเห็นว่า โจทก์ฎีกาคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228 ประกอบด้วยมาตรา 247 โจทก์ย่อมฎีกาได้ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 231 ไม่ได้บัญญัติให้คำสั่งทุเลาการบังคับคดี ของศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดหรือเป็นที่ยุติ โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของโจทก์ทั้งเจ็ดไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยที่ 2 ถึงแก่กรรมศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 เข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เลิกบริษัทเข้งหงวน จำกัดให้นายจำรัส ปิงคลาศัย เป็นผู้ชำระบัญชี จำเลยที่ 1,3,4,6, และ 7 อุทธรณ์ และยื่นคำร้อง ขอทุเลาการบังคับ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลา การบังคับในระหว่างอุทธรณ์ โจทก์ทั้งเจ็ดฎีกาคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการบังคับของศาลอุทธรณ์ภาค 3 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว โจทก์ทั้งเจ็ดจึงยื่นคำร้องนี้
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คำสั่งของศาลในเรื่องทุเลาการบังคับเป็นอำนาจเฉพาะศาล เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งในเรื่อง ทุเลาการบังคับในระหว่างพิจารณาอย่างใดแล้ว คู่ความจะฎีกา คำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 อีกไม่ได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา ของโจทก์ทั้งเจ็ดชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง คืนค่าคำร้อง 160 บาท ให้แก่โจทก์ทั้งเจ็ด