แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จึงไม่รับโจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายรวมอยู่ด้วยโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 87)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีโจทก์มีมูลจึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 80)
โจทก์จึงยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับฎีกา (อันดับ 83)
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขถ้อยคำที่พิมพ์ผิดพลาดในคำร้องอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว (อันดับ 89)
คำสั่ง
พิเคราะห์ฎีกาของโจทก์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่า การที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีโจทก์ยังมีความสงสัยไม่ชัดแจ้งนั้นก็เพราะศาลอุทธรณ์มิได้พิจารณาวินิจฉัยพยานเอกสารของโจทก์ก็ดี จำเลยมีเจตนาเบิกความเท็จในการพิจารณาของศาลก็ดีเหล่านี้เป็นการฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง