แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้เป็นคดี มีทุนทรัพย์ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลย เป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย คืนค่าขึ้นศาลให้จำเลย
จำเลยเห็นว่า คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับการฟ้องขับไล่ออกจากอสังหาริมทรัพย์ เมื่อจำเลยได้ต่อสู้ว่าที่ดินพิพาทเป็น กรรมสิทธิ์ของจำเลย คดีนี้จึงไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง และฎีกาที่ว่า โจทก์ทั้งสองได้รับโอนกรรมสิทธิ์ ในที่ดินที่พิพาทมาโดยนิติกรรมที่เป็นโมฆียะ โจทก์ทั้งสอง จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ทั้งสองได้รับสำเนา คำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้านเลขที่ 20/2 ออกไป จากที่ดินโฉนดเลขที่ 8892 ตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรีจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นของโจทก์ทั้งสอง พร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากที่ดินพิพาท ห้ามมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 145)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 149)
คำสั่ง
คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย เนื่องจาก ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 224 โดยไม่รับพิจารณา ปัญหาข้อเท็จจริง ในอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยมิได้ฎีกาคัดค้าน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า อุทธรณ์ของจำเลยไม่ต้องห้ามแต่อย่างใด เมื่อคดีนี้ไม่มีการ พิจารณาปัญหาข้อเท็จจริงในชั้นอุทธรณ์ข้อฎีกา ของจำเลยในปัญหาข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมาย ว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน ของศาล จึงเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ว่ากล่าวกัน มาในชั้นอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า คดีนี้ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224,248 นั้น จำเลยมิได้กล่าวมาโดยชัดแจ้งในฎีกา กลับยกขึ้นอ้างในชั้นยื่น คำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ที่ไม่รับฎีกา จึงไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกา ไม่รับวินิจฉัย ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา จำเลยจึงชอบแล้ว