แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์รับรองฎีกา ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีในศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา ผู้พิพากษาที่ลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ข้อความ ที่ตัดสินนั้นไม่เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด จึงไม่ อนุญาตให้ฎีกายกคำร้อง และศาลชั้นต้นสั่งฎีกาว่า จำเลยไม่ได้ อนุญาตให้ฎีกา จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่ว่า จำเลยเป็น ผู้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ ขัดแย้งกัน นั้น เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลฎีกา ขอศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงด้วย
หมายเหตุ โจทก์ และโจทก์ร่วมยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น นางเป้าแซ่ตั้งผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 วรรคแรก ประกอบมาตรา 336 ทวิ,43 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 13 ลงโทษจำคุก 6 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 6 คงจำคุก 5 ปี กับให้ นับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1449/2533 ของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี และโทษของจำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 116/2534 ของศาลจังหวัดลพบุรี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาที่พิจารณาคดี ในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์รับรองฎีกา ศาลชั้นต้นและผู้พิพากษา ที่พิจารณาคดีในศาลชั้นต้นตลอดจนผู้พิพากษาที่ลงชื่อในคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 102 แผ่นที่ 2, ที่ 1)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 108)
คำสั่ง
การอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่ของผู้พิพากษา ซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ มาตรา 221 นั้น เป็นอำนาจ ของผู้พิพากษาดังกล่าวโดยเฉพาะ ถ้าผู้พิพากษาดังกล่าวสั่ง ไม่อนุญาตไปจนเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกา ศาลฎีกา จะสั่งกลับเป็นอนุญาตให้ยื่นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงนั้นได้ ดังที่จำเลยร้องขอไม่ได้ ให้ยกคำร้อง