แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องที่ 1 ฎีกา มีทางชนะคดี หากให้เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์โอนที่พิพาทให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปก่อนแล้ว หากภายหลังผู้ร้องที่ 1 ชนะคดีก็จะเป็นการยากที่จะทำการ ขายทอดตลาดที่ดินพิพาทใหม่ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โปรดระงับการโอนที่ดินพิพาทไว้ก่อน จนกว่าศาลฎีกา จะมีคำพิพากษา โปรดอนุญาต
หมายเหตุ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และผู้คัดค้านที่ 2 แถลงคัดค้านส่วนโจทก์และจำเลยทั้งสองได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 102,106,101 แผ่นที่ 4, ที่ 6)
คดีสืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 3446,3448,7088 และ 8660 ตำบลท่าทรายอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ของจำเลยที่ 2 และ ได้ทำการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2532 ต่อมาผู้ร้องทั้งสามต่างยื่นคำร้องว่า เนื่องจากเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้แจ้งการขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 2 ทราบ และ ในการขายทอดตลาดได้เคาะไม้ขายให้แก่ผู้คัดค้านที่ 2 อย่างรวดเร็ว อันมีลักษณะเป็นการสมคบกับผู้คัดค้านที่ 2 ขายทรัพย์ไปในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่แท้จริง ทำให้ผู้ร้อง ทั้งสามเสียหาย ขอให้ศาลยกเลิกการขายทอดตลาดดังกล่าว และให้ ประกาศขายทอดตลาดใหม่ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และบริษัท เอชแอลซี จำกัด (ผู้ซื้อทรัพย์) แถลงคัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ต่างฎีกา เฉพาะผู้ร้องที่ 1ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 98 แผ่นที่ 2,100,98 แผ่นที่ 1)
ชั้นอุทธรณ์ ผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างอุทธรณ์ อุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง (อันดับ 87)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่มีเหตุสมควรที่จะให้รับการโอนที่ดินพิพาทไว้ก่อนดังคำร้องของ ร้องที่ 1 ให้ยกคำร้องค่าคำร้องให้เป็นพับ
