คำสั่งคำร้องที่ 1641/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 แม้จะเป็นฎีกา ในปัญหาข้อกฎหมาย ก็ต้องห้ามตามบทบัญญัติดังกล่าว จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า การที่ศาลล่างทั้งสองมิได้หยิบยกคำฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์มาพิจารณาประกอบการวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีจึงเป็นการมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2) ประกอบด้วยมาตรา 225 ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่มีสาระสำคัญ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งแปด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137,148,162(1)(2)(3)(4),172, 173,174 วรรคสอง,175,177,180,201,267,326,338 พระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ.2528 มาตรา 28 ข้อ 7,8, 83,86,91
ศาลชั้นต้นตรวจฟ้องแล้วมีคำสั่งให้รับฟ้องโจทก์ไว้ พิจารณาเฉพาะจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ในฟ้องข้อ (1) ก. ข. และ ค. จำเลยอื่นและข้อหานอกจากนี้ให้ยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 3 นั้น แม้โจทก์จะระบุไว้เป็นจำเลยด้วย แต่ในคำฟ้องของโจทก์เอง ก็จดแจ้งไว้ว่าได้ไปดำเนินคดีต่อศาลคดีเด็กและเยาวชนกลาง ต่างหากแล้วจึงไม่รับฟ้องเป็นจำเลยที่ 3 ด้วย โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา ของโจทก์ โจทก์อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งว่า ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 141)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 142)

คำสั่ง
คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้องโจทก์จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share