แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ลงโทษไม่เกิน 5 ปีจึงต้องห้ามฎีกา ไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการกระทำผิดเกินสมควรแก่เหตุ แต่ศาลอุทธรณ์กลับเห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดที่เกินสมควรแก่เหตุ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงที่สำคัญและเป็นการแก้ไขมาก อีกประการหนึ่ง คดีนี้ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยโดยพิเคราะห์ถึงเหตุอันควรปรานีกำหนดโทษสถานเบาให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 แต่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้นำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 มาวินิจฉัยถึงเหตุอันควรปรานีกำหนดโทษสถานเบาแก่จำเลยด้วยจึงถือว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นการแก้ไขมาก โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์และโจทก์ร่วมต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 158,159)
ระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น นางมาลัย ชินผักแว่น ภรรยาผู้ตาย ร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 72 เมื่อพิเคราะห์ถึงสภาพความประพฤติของผู้ตายประกอบกับจำเลยไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน ทั้งจำเลยยังมีภรรยาและบุตรผู้เยาว์ที่ต้องเลี้ยงดูอีกสองคน เห็นสมควรวางโทษสถานเบา โดยวางโทษจำคุก 3 ปี จำเลยกระทำผิดแล้วไม่หลบหนียอมให้เจ้าพนักงานจับกุมแต่โดยมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามคงลงโทษจำคุก 2 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุก 6 ปี ชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาจำเลยยอมรับว่าจำเลยเป็นคนยิงผู้ตาย ประกอบกับหลังเกิดเหตุแล้ว จำเลยก็มิได้หลบหนี ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแต่โดยดี กรณีมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลย 4 ปีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 154)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 156)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น เฉพาะโทษอย่างเดียวเป็นการแก้ไขเล็กน้อยและให้จำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษเบาลงหรือรอการลงโทษเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการวางโทษของศาล เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง