แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา และยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับรองให้ฎีกาใน ปัญหาข้อเท็จจริง ยกคำร้อง และศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาในข้อเท็จจริงของโจทก์ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ส่วนฎีกาในข้อกฎหมายนั้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต่างก็ฟังว่าโจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายกันจริง แต่ที่ยกฟ้องโจทก์เพราะฟังข้อเท็จจริงว่ามีการเลิกสัญญากันแล้วที่โจทก์ฎีกาว่าเป็นการนำสืบนอกคำให้การและเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร จึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยโดยศาลฎีกาจึงไม่รับฎีกาโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ได้โต้แย้งในประเด็นที่ว่าการนำสืบพยานหลักฐานของจำเลย เป็นการนำสืบพยานบุคคลแก้ไข เปลี่ยนแปลงพยานเอกสาร เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 เป็นปัญหา ข้อกฎหมายที่เป็นสาระสำคัญแก่คดีอันสมควรได้รับการวินิจฉัย จากศาลสูงโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 77)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารตลอดจนขนย้ายทรัพย์สินของจำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์และให้จำเลยไปดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินพิพาทแล้วให้ส่งมอบ หนังสือสำคัญโฉนดที่ดินและโอนชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ให้โจทก์ หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการ แสดงเจตนาแทนจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา และยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา ผู้พิพากษา ที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับรองฎีกายกคำร้อง และศาลชั้นต้นมี คำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ (อันดับ 68,67)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 75)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าโจทก์ยกเลิกสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทกับจำเลยแล้ว ปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ยกขึ้นฎีกาจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันสมควรได้รับการวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้โจทก์ชนะคดีขึ้นมาได้ ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ทั้งหมดชอบแล้วให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ