คำสั่งคำร้องที่ 1590/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ทุนทรัพย์ชั้นฎีกาของโจทก์ไม่เกิน 200,000 บาท ต้องห้ามฎีกาจึงไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาทั้งในปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอันเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการพิจารณารวม 2 ประเด็นคือ การที่นายอุทัย สามีโจทก์ไปตกลงกับจำเลยในเรื่องค่าเสียหาย ตามบันทึกเอกสารหมาย ล.2โจทก์ไม่ได้ตั้งตัวแทนเป็นหนังสือให้สามีโจทก์ ไป ทำหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลย ดังนั้นสัญญาประนีประนอมยอมความตามบันทึกเอกสารหมาย ล.2จึงไม่มีผลผูกพันโจทก์ เงินที่สามีโจทก์รับจากจำเลยในวันทำบันทึกถือเป็นการจ่ายให้ตามศีลธรรมเพื่อบรรเทาความเสียหาย เท่านั้น และการกระทำของสามีโจทก์จะถือเป็นตัวแทนเชิดไม่ได้ เพราะโจทก์ยังบาดเจ็บสาหัสไม่อยู่ในภาวะที่จะให้ความยินยอม หรือรับรู้ในการนั้นได้ ทั้งโจทก์มิได้ให้สัตยาบันแก่การตกลงนั้น หนี้อันเกิดจากการละเมิดจึงไม่ระงับ ชอบที่โจทก์จะเรียกร้อง ให้จำเลยรับผิดใช้ค่าเสียหายนอกเหนือจากบันทึกข้อตกลง ตามเอกสารหมาย ล.2 ได้
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 91)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 170,427 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้เงิน51,927 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 84)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 88)

คำสั่ง
ฎีกาโจทก์ในปัญหาเรื่องการตั้งตัวแทนไปทำสัญญาประนีประนอม กับจำเลยต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือไม่ และที่สามีโจทก์ ไปตกลงรับค่าเสียหายจากจำเลยนั้นเป็นตัวแทนเชิดหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ให้ รับ ฎีกา ของโจทก์และดำเนินการต่อไป

Share