แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกาคำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่า คำสั่งไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับของศาลอุทธรณ์เป็นดุลพินิจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะ จำเลยไม่มีสิทธิยื่นฎีกาคำสั่งดังกล่าว จึงไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า คำร้องเกี่ยวกับการขอทุเลาการบังคับคดีเมื่อศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องย่อมมีผลให้คำร้องนั้นสิ้นสุดลงและต้องมีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาทันที กรณีจึงมิใช่คำสั่ง
ระหว่างพิจารณา จึงขอศาลฎีกาได้โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษา
หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 12)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากอาคารเลขที่ 510 ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 2,100 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจนกว่าจะชำระเงินแก่โจทก์ที่ 2 เสร็จและนับจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากอาคารดังกล่าวในอัตราเดือนละ 300 บาท 400 บาท 500 บาท ตามระยะเวลาการเช่าที่กำหนดในสัญญาเช่า คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง ให้ยกคำร้อง (อันดับ 1)
จำเลยฎีกาคำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 3)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 7) โดยทนายจำเลยลงชื่อในคำร้องแต่ไม่ปรากฏใบแต่งทนายจำเลยในถ้อยคำสำนวนที่ส่งมาศาลฎีกา
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ การสั่งเกี่ยวกับเรื่องทุเลาการบังคับเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะเมื่อศาลอุทธรณ์สั่งอย่างใดแล้วคู่ความฎีกาอีกไม่ได้ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ