แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งแปดอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า การวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 5 และที่ 6 หรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54จึงไม่รับอุทธรณ์
โจทก์ทั้งแปดเห็นว่า โจทก์ได้อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่าจำเลยทั้งเจ็ดคนเป็นนายจ้างของโจทก์ทั้งแปด การที่ศาลมิได้พิพากษาให้จำเลยทั้งเจ็ดรับผิดร่วมกันในฐานะผู้เริ่มก่อการตั้งบริษัท เป็นการพิพากษาขัดกับพยานหลักฐานในท้องสำนวนโปรดมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลชั้นต้นและให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 5 และทนายจำเลยที่ 6ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 93,87) ส่วนจำเลยที่ 1 ที่ 4และที่ 7 ศาลแรงงานกลางได้ปิดประกาศที่หน้าศาลแจ้งให้ทราบแทนการส่งหมายแล้ว (อันดับ 92,102,98)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 4 และที่ 7 ร่วมกันจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ที่ 1 จำนวน 29,940 บาท ค่าชดเชย 4,990 บาทจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ที่ 4 จำนวน 23,350 บาท ค่าชดเชย 4,670 บาทจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ที่ 2 ที่ 3 และที่ 5 ถึงที่ 8 จำนวน 14,000 บาท11,585 บาท 9,930 บาท 10,850 บาท 8,275 บาท และ 9,332 บาทตามลำดับ ส่วนของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 5 และที่ 6 ให้ยกฟ้อง
ทนายโจทก์ทั้งแปดอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 83)
ทนายโจทก์ทั้งแปดจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 85)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ข้อที่โจทก์ทั้งแปดอุทธรณ์ว่าตามพยานหลักฐานในสำนวนฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 5 ที่ 6 เป็นนายจ้างของโจทก์นั้น เห็นว่าศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยทั้งสี่ถูกจำเลยที่ 1หลอกลวงให้ร่วมกันลงชื่อในเอกสารของบริษัทฯ และรับฟังว่าจำเลยทั้งสี่มิได้เป็นนายจ้างของโจทก์ อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งแปดจึงเป็นเรื่องโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งแปด ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง