คำสั่งคำร้องที่ 1558/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยยื่นคำร้องขอให้ยกกระบวนพิจารณาตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2531 เป็นต้นไปขึ้นมาดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่และพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฯลฯแม้จะมีเหตุขัดข้องทำให้ไม่สามารถเบิกตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ข้อเท็จจริงก็ฟังได้ว่าจำเลยได้ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามความมุ่งหมายของกฎหมายแล้ว ไม่มีเหตุที่จะต้องยกกระบวนพิจารณาตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2531 ขึ้นมาดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่หรือพิพากษาใหม่ ยกคำร้อง
จำเลยเห็นว่า ขณะที่ศาลชั้นต้นออกหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แจ้งแก่จำเลยนั้น จำเลยมิได้อยู่ ณ ภูมิลำเนาฟ้องของโจทก์แล้ว แต่จำเลยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษธนบุรีและฑัณทสถานหญิงลาดยาว การที่ศาลไม่สามารถตรวจสอบหรือไม่ทราบว่าจำเลยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ตลอดจนมิได้เบิกตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาก็เนื่องจากความพลั้งเผลอของเจ้าหน้าที่ที่มิได้นำเอกสารเข้ารวมสำนวนไว้ในขณะนั้นหาใช่เกิดจากการกระทำอันจำเลยจะต้องรับผิดไม่ ดังนั้นในวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 17 ตุลาคม 2531 ศาลชั้นต้นสั่งในรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยได้ทราบวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วโดยได้ส่งหมายนัดให้จำเลยทราบโดยการปิดหมาย แต่จำเลยไม่มาตามนัด จึงให้ออกหมายจับแล้วนัดฟังคำพิพากษาใหม่อีกครั้งจึงเป็นกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2531 ลับหลังจำเลยแล้ว ถึงแม้ว่าทนายจำเลยจะได้ยื่นฎีกาไว้ก็ตาม ก็ไม่อาจถือได้ว่าจำเลยได้ทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอศาลฎีกาได้โปรดมีคำสั่งให้รับคำร้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
คดีทั้งสี่สำนวนนี้ ศาลชั้นต้นสั่งรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 สำนวนแรก จำคุกกระทงละ 6 เดือนรวม 3 กระทง จำคุก 18 เดือน สำนวนที่สอง จำคุกกระทงละ 8 เดือนรวม 2 กระทง จำคุก 16 เดือน สำนวนที่สามจำคุกกระทงละ 8 เดือนรวม 3 กระทง จำคุก 24 เดือน และสำนวนที่สี่ กระทงแรกจำคุก6 เดือน กระทงที่สอง จำคุก 8 เดือน รวม 2 กระทง จำคุก 14 เดือนรวม 4 สำนวน วางโทษจำคุก 72 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพหลังจากเสร็จการสืบพยานโจทก์ รวมเช็ค 4 สำนวน จำนวนเงิน752,000 บาท จำเลยชำระเงินบางส่วนให้โจทก์แล้ว จำนวน160,000 บาท เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงลงโทษจำคุกจำเลย 36 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ลับหลังจำเลยเมื่อวันที่30 พฤศจิกายน 2531(อันดับ 181)
ทนายจำเลยฎีกา โดยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำฎีกามายื่นศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 190,189)
ทนายจำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำร้อง (อันดับ 195,206)
ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องดังกล่าว (อันดับ 214,215)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 217)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องของจำเลยที่ขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่นั้นจะต้องอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ตามลำดับชั้นศาล จำเลยอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาจึงไม่ชอบ ให้ยกคำร้อง

Share