แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 1 ถึงข้อ 4แม้จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย แต่เป็นข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นมาว่ากล่าวกันแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งเป็นข้อกฎหมายไม่เป็นสาระแก่คดี ฎีกาข้อ 5 และข้อ 6 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาซึ่งได้สั่งไว้ในฎีกาฉบับที่ยื่นไว้ก่อนแล้ว จึงไม่รับฎีกาของจำเลยทุกข้อ
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยข้อ 1 ถึงข้อ 5 เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 26)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4,22,31,40,42,65,69,70,71 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฯลฯ เป็นความผิดสองกระทงเรียงกระทงลงโทษฐานดัดแปลงก่อสร้างเพิ่มเติมอาคารพาณิชย์ผิดจากแบบแปลนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000บาท และฐานไม่รื้อถอนอาคารตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน จำคุก 6 เดือนปรับวันละ 10,000 บาท เป็นเวลา 104 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น1,040,000 บาท รวมจำคุก 1 ปี ปรับ 1,060,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือนและปรับ 530,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ฯลฯ
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 25)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 26)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาข้อ 1- ข้อ 4 เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ฎีกาข้อ 5 เป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยส่วนฎีกาข้อ 6 เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยทุกข้อต้องห้ามฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง
