คำสั่งคำร้องที่ 149/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์พิจารณาคดีเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น เป็นการพิจารณาที่ไม่ครอบคลุมการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดไม่ชอบด้วยกฎหมายและศาลอุทธรณ์ไม่ได้พิจารณาถึงเจตนาของจำเลย เป็นการไม่พิจารณาพฤติกรรมการกระทำของจำเลย ไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย กับที่ฎีกาเกี่ยวกับเรื่องยักยอก ซึ่งโจทก์ไม่ต้อง นำสืบให้เห็นว่า จำเลยเอาทรัพย์ไปให้ใคร เพราะกฎหมายบัญญัติ ไว้แล้วเป็นการฎีกาโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ เป็นปัญหา ข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ประกอบด้วยวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง มาตรา 4 จึงไม่รับฎีกา โจทก์เห็นว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่ได้พิจารณาพิพากษาถึงพฤติกรรมของจำเลยทุกกระบวนความ เพราะไม่ได้วินิจฉัย พฤติกรรมของจำเลยเมื่อได้รับหมายแจ้งของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2534 ว่าให้รับอุทธรณ์และให้ทุเลาการบังคับคดี ไว้จนกว่าศาลอุทธรณ์พิพากษา จำเลยยังฝืนนำเจ้าพนักงาน บังคับคดีไปรื้อถอนบ้านของโจทก์ในวันที่ 10 และ 16 มกราคม 2535 นั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352,358 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 75) โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 77)

คำสั่ง คดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึง ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและปัญหาข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220ประกอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณา ความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 ที่ศาลชั้นต้นสั่ง ไม่รับฎีกาของโจทก์นั้นชอบแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ให้ยกคำร้อง

Share