แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและคดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกจึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ว่า จำเลยที่ 1 เพียงแต่เดินนำหน้ารถยกโฟลค์ลีฟ ที่จำเลยที่ 3 ขับมาเท่านั้น จำเลยที่ 1 มิได้ลงมือช่วยจำเลยที่ 3 ขนย้ายตลับลูกปืน ไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 325(1),(7),335 วรรคสาม,336 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว, 83 จึงเป็นฎีกา ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(7) วรรคสาม,336 ทวิที่แก้ไขแล้ว,83 จำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1)(7)(11) วรรคสาม,336 ทวิ ที่แก้ไขแล้ว,83ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 2 มีกำหนดคนละ 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 4 ปี 6 เดือน คืนของกลางแก่เจ้าของ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ สำหรับจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาม คำพิพากษาของศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 197) จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 205)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ฟังข้อเท็จจริงว่าคืนเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เดินนำหน้ารถยกลัง ตลับลูกปืนของกลางซึ่งจำเลยที่ 3 เป็นคนขับจากที่แผนกสโตร์ ของผู้เสียหาย แล้วจำเลยที่ 1 ที่ 3 ช่วยกันนำลัง ดังกล่าวมาวางไว้ในที่เกิดเหตุห่างจากจุดเดิมประมาณ 600 เมตร เพื่อรอรถบรรทุกมาขนออกไป จากบริษัทผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 จึงเป็นตัวการร่วมกระทำผิด ฐานลักทรัพย์กับจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานของบริษัท ถ้าได้กระทำผิดจริง ก็น่าจะมีการจับกุมในวันรุ่งขึ้น พยานโจทก์ไม่ได้ยืนยันว่าลังตลับลูกปืนของกลางเป็นลัง เดียวกับที่จำเลยที่ 1 ที่ 3 ขนมา จำเลยที่ 1 ไม่ได้นั่งมาในรถบรรทุก ที่จำเลยที่ 2 ขับมาในภายหลัง จำเลยที่ 1 ไม่เคยรู้จัก กับจำเลยที่ 3 มาก่อน จึงฟังไม่ได้ว่าได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 3 ฎีกาของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวล้วนเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามกฎหมาย ที่ศาลชั้นต้น สั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง