แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า รับเป็นอุทธรณ์ของจำเลย ยกเว้นข้อ 4 วรรคแรกเพราะเป็นข้อเท็จจริง จึงไม่รับจำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ข้อ 4 วรรคแรกจำเลยอุทธรณ์ว่า การที่ศาลแรงงานกลางฟังว่าจำเลยมีกำไร ไม่ประสบภาวะขาดทุนเป็นการฟังพยานหลักฐานที่ขัดต่อพยานเอกสารที่ปรากฏในสำนวนคือเอกสารหมายล.14 ซึ่งได้ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าในปี พ.ศ. 2528 จำเลยได้ประสบภาวะขาดทุน จึงเป็นหลักฐานพยานเอกสารที่แสดงอย่างชัดว่า จำเลยประสบภาวะขาดทุน การรับฟังพยานเอกสารของศาลแรงงานกลางจึงขัดต่อพยานเอกสารที่ปรากฏอยู่ในสำนวนอันเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับอุทธรณ์ข้อ 4 วรรคแรกของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 41)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้โจทก์รวม 22,223 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 6 มกราคม2529 เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 32)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 36)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ตามงบดุลเอกสารหมาย ล.14 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยังมีกำไร ที่จำเลยอุทธรณ์ในข้อ 4 วรรคแรกว่าตามเอกสารดังกล่าวจะฟังว่าจำเลยยังมีกำไรและไม่ประสบการขาดทุนไม่ได้นั้น จึงเป็นอุทธรณ์โต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง