คำสั่งคำร้องที่ 147/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ต้องห้าม ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 ฎีกาที่จำเลยอ้างว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายนั้นศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยล้วนแต่ฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นต้องห้ามฎีกาตามตัวบทกฎหมายดังกล่าว จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายซึ่งในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยาน หลักฐานในสำนวน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณา พิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 179แผ่นที่ 3)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 เป็นความผิด 2 กรรม ให้เรียงกระทงลงโทษ จำคุกกระทงละ 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 176)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 177)

คำสั่ง
คดีนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำคุกจำเลย มีกำหนด 1 ปี ฎีกาของจำเลยที่ว่า เช็คทั้ง 10 ฉบับ จำเลยออกให้โจทก์ไว้เป็นประกันไม่ใช่เช็คชำระหนี้ และจำเลยเป็นคนบอกให้พยานโจทก์เขียนข้อความในเช็คหรือไม่ เป็นฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลชั้นต้นสั่ง ไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share