แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์โจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน มาตรา 54 ไม่รับอุทธรณ์โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จึงขออุทธรณ์คำสั่งของศาลแรงงานกลาง
หมายเหตุ ศาลแรงงานกลางได้ส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับแล้ว (อันดับ 51)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 2,162 บาท ค่าชดเชย 16,980 บาท และค่าเสียหาย19,910 บาท ให้โจทก์
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 46)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 47)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามอุทธรณ์ข้อ 1 ที่ว่าโจทก์มิได้จงใจขัดคำสั่งบริษัทจำเลยที่สั่งให้ไปทำงานในวันที่ 8 มิถุนายน 2529เพราะโจทก์ได้บอกกล่าวล่วงหน้าแล้วว่าจะไปธุระที่ต่างจังหวัดจำเลยไม่เสียหาย และการฝ่าฝืนคำสั่งยังห่างไกลต่อความเสียหายที่จะเกิดแก่จำเลย กับอุทธรณ์ข้อ 2 ที่ว่าใบสมัครงานเอกสารหมายล.8 ไม่มีข้อความระบุเรื่องการทดลองงานเลย ต่อมามีการเติมข้อความเปลี่ยนแปลงโดยฝ่ายจำเลยเองเติมแต่เพียงลำพัง ว่าให้รับเป็นทดลองงานใหม่เป็นการเอาเปรียบลูกจ้าง และเป็นการริดรอนสิทธิของโจทก์ขัดต่อความสงบเรียบร้อย นั้น เป็นอุทธรณ์โต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสองกรณี ที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ชอบแล้ว ยกคำร้อง