คำสั่งคำร้องที่ 144/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ทั้งสามฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ทั้งมิได้ยก ขึ้นว่ากล่าวมาในศาลอุทธรณ์ จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกา
โจทก์ทั้งสามเห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกา ข้อกฎหมายสมควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณา พิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 5 ได้รับ สำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 125)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328,83 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 8พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 วรรคสอง สำหรับจำเลยที่ 1 ลงโทษปรับ 2,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 5ให้ลงโทษจำคุกคนละ 2 เดือนและปรับ คนละ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ มีกำหนด 2 ปี ให้ยกฟ้องโจทก์ สำหรับจำเลยที่ 4
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 5 ฎีกา (อันดับ 117)
โจทก์ทั้งสามฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 118)
โจทก์ทั้งสามยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 121)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นซึ่งเป็นศาลแขวง พิพากษาลงโทษจำคุกและปรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 5 โดยรอการลงโทษจำคุกไว้ และยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 4 จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 5เท่านั้นมีสิทธิอุทธรณ์ ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ส่วนโจทก์ทั้งสามต้องห้าม มิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้ง ศาลแขวงและวิธีพิจารณาคดีอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2494มาตรา 22 การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามที่ขอให้ลงโทษจำคุก จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 โดยไม่รอการลงโทษ โดยศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงแล้วโจทก์ทั้งสามฎีกาว่าอุทธรณ์ของโจทก์ ทั้งสามเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็น อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายนั้นแม้ฎีกาของโจทก์ ทั้งสามจะเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ก็เป็นฎีกาปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดี อันควรได้รับการวินิจฉัยตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ทั้งสาม ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share