แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา คดีมีทางชนะ โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสองแถลงคัดค้าน (อันดับ 62)
คดีสืบเนื่องจากโจทก์จำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่า จำเลยทั้งสองตกลงโอนกรรมสิทธิในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 179 หมู่ที่ 1 ตำบลแม่แรมอำเภอแม่ริมจังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 71 ตารางวา ให้โจทก์และโจทก์จะชำระเงินค่าที่ดินให้จำเลยที่ 2 ตามราคาซื้อขายในสัญญาพิพาทเป็นจำนวนเงิน 342,000 บาท และค่าเสียหายอีกจำนวน 100,000บาท โดยชำระให้แก่นางสาวชุมพร พรหมมาวิน ซึ่งได้ชำระเงินให้แก่จำเลยทั้งสองตามจำนวนเงินข้างต้นไว้ครบถ้วนแล้ว โจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงจะไปทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวและชำระเงินพร้อมกันในวันที่ 20 ตุลาคม 2532 เวลา 11 นาฬิกาณ สำนักงานที่ดินอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หากโจทก์ไม่ไปรับโอนพร้อมกับชำระค่าที่ดินทั้งหมดให้แก่จำเลยที่ 2 ตามกำหนดให้ถือว่าโจทก์ผิดนัด โจทก์จะไม่ติดใจฟ้องร้องใด ๆ เกี่ยวกับจำเลยทั้งสองและที่ดินแปลงนี้อีกต่อไป และหากจำเลยไม่ไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามกำหนด ยินยอมให้โจทก์ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาโอนของจำเลยทั้งสองแทนได้ (อันดับ 10 แผ่นที่ 6)ศาลชั้นต้นได้พิพากษาคดีไปตามยอมแล้ว
ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่า เวลา 10.45 นาฬิกา โจทก์มอบหมายให้ทนายโจทก์ไปที่สำนักงานที่ดินอำเภอแม่ริมเพื่อแจ้งให้ทนายจำเลยและนางสาวชุมพร พรหมมาวิน ทราบว่าโจทก์กำลังดำเนินการให้ธนาคารออกเช็คให้ และโจทก์ได้ตามไป ณ สำนักงานที่ดินอำเภอแม่ริมพร้อมเช็คและเงินสดเพื่อชำระให้นางสาวชุมพร แต่จำเลยไม่ยอมดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ขอให้บังคับเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอแม่ริมดำเนินการจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินให้โจทก์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยยื่นคำแถลงว่าฝ่ายโจทก์ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความด้วยจึงไม่อาจออกหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินให้จดทะเบียนโอนที่ดินให้โจทก์ได้ให้นัดสอบถาม (อันดับ 13,12 แผ่นที่ 4) ศาลชั้นต้นสอบถามแล้วมีคำสั่งว่าโจทก์เป็นผู้ผิดนัด (อันดับ 18)
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 54,55)
คำสั่ง
คำร้องของผู้ร้องพอแปลได้ว่า ผู้ร้องขอคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264พิเคราะห์แล้วเห็นสมควรห้ามจำเลยทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทในระหว่างฎีกา ให้ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินทราบ