แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริง และคดีมีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันไม่เกิน200,000 บาท ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว ไม่รับฎีกาของโจทก์
โจทก์เห็นว่า โจทก์ได้ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 72)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 26,112.50 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (วันที่ 4 เมษายน 2532) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 66)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 68)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีของโจทก์มีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาเพียง 26,112.50 บาท ทั้งฎีกาของโจทก์ก็เป็น ปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
