คำสั่งคำร้องที่ 1378/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้และศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้แต่เพียงว่าไม่รอการลงโทษจำคุกโดยมิได้เพิ่มเติมโทษแก่จำเลย จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงกรณีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามมาตรา 219 ไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้ไขโทษจากรอการลงโทษมาเป็นไม่รอนั้น ถือได้ว่าเป็นการแก้ไขมาก และฎีกาของจำเลยก็เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายเรื่องอัตราโทษ โดยขอให้ศาลฎีกาพิพากษาตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 31)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26,75 วรรคแรกเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 75 วรรคแรกซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี ปรับ 10,000 บาทโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี ของกลางให้ริบ ให้จำเลยมารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุกสองเดือนต่อครั้งมีกำหนด 1 ปี
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษไม่ปรับ และไม่คุมประพฤติจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 22)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 27)

คำสั่ง
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่รอการลงโทษจำคุกให้จำเลยเป็นไม่รอการลงโทษจำคุกนั้น เป็นการเพิ่มเติมโทษจำเลย จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงให้รับฎีกาของจำเลย แล้วให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share