แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกาและฟ้องแย้ง คดีมีทางชนะได้ในที่สุดโปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 148)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวน2,759,855.71 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17ต่อปีในต้นเงิน 1,907,169.95 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระแก่โจทก์ครบถ้วน
จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 28,599.58 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงินดังกล่าวนับจากวันที่ 25 มิถุนายน 2523 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์โดยให้โจทก์ส่งมอบหุ้นบริษัทชลประทานซีเมนต์ จำกัด จำนวน400 หุ้น และหุ้นบริษัทรามาทาวเวอร์ จำกัด จำนวน 500 หุ้นให้แก่จำเลยคำขออื่นนอกจากนี้ตามฟ้องโจทก์และฟ้องแย้งของจำเลยให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินจำนวน2,759,855.71 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดต่อปีในต้นเงิน1,907,169.95 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาและฟ้องแย้ง พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 137)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละสิบเจ็ดต่อปีในต้นเงิน 1,907,169.95 บาท มีกำหนด 7 ปี นับถัดจากวันฟ้องมาให้เป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง