แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากจำเลยได้ถูกโจทก์ฟ้องเป็นอีกคดีหนึ่งที่ศาลภาษีอากรกลาง ตามคดีหมายเลขดำที่ 70/2534 มีประเด็นอย่างเดียวกับคดีนี้ว่า การประเมินของเจ้าพนักงานของโจทก์ชอบหรือไม่ พยานหลักฐานเกี่ยวกับเอกสารตลอดจนพยานบุคคลเป็นชุดเดียวกันนางแคทเธอรีนม็อค ได้เบิกความในคดีดังกล่าวเป็นเวลาหลังจากที่ศาลในคดีนี้ได้มีคำพิพากษาแล้ว จำเลย จึงไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานอ้างคำเบิกความของนางแคทเธอรีนม็อค ได้ทัน ภายในกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย คำเบิกความของ พยานดังกล่าวเป็นเอกสารสำคัญและจำเป็นแก่คดีซึ่งเกี่ยวกับ ประเด็นในคดีโดยตรง จำเลยจึงขออ้างคำเบิกความของ นางแคทเธอรีนม็อค เป็นพยานต่อศาลในคดีนี้เพื่อประกอบคำวินิจฉัยของศาลฎีกาตามบัญชีพยานที่ยื่นมาพร้อมคำร้องนี้ และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม โปรดอนุญาตให้จำเลย ยื่นบัญชีระบุพยานดังกล่าวด้วย
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสองแถลงคัดค้าน (อันดับ 86)
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าภาษีอากรจำนวน 680,998.47 บาท แก่โจทก์ทั้งสองและให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์ (อันดับ 80)
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 78)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว แม้ว่านางแคทเธอรีนม็อค จะเบิกความในคดีหมายเลขดำที่ 70/2534 ของศาลชั้นต้น หลังจากศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้ ทำให้จำเลยไม่สามารถอ้างคำเบิกความ ของนางแคทเธอรีนม็อค เป็นพยานต่อศาลในคดีนี้ก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดีก็ตาม แต่ตามคำร้องของ จำเลยระบุว่าคดีดังกล่าวและคดีนี้มีประเด็นอย่างเดียวกันว่า การประเมินของเจ้าพนักงาน ประเมินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และคดีนั้นเจ้าพนักงานประเมิน ก็ประเมินโดยอาศัยราคาในใบขนสินค้าขาออกของฮ่องกงเหมือนคดีนี้เมื่อจำเลยนำนาง แคทเธอรีนม็อค เข้าเบิกความในคดีดังกล่าวย่อมแสดงว่าจำเลยทราบอยู่แล้วว่าจำเป็นต้องสืบนางแคทเธอรีนม็อค ในคดีนี้ กรณีไม่มีเหตุอันสมควรแสดงได้ว่า จำเลยไม่สามารถ ทราบได้ว่าต้องนำนางแคทเธอรีนม็อค มาสืบเพื่อประโยชน์แก่คดีของตนในคดีนี้หรือมีเหตุอันสมควรอื่นใด ตามข้อกำหนดคดี ภาษีอากร ข้อ 8 วรรคสี่ ซึ่งออกตามความใน มาตรา 20 แห่ง พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 จำเลยจึงไม่อาจยื่นคำร้องขออนุญาตอ้างพยานหลักฐานเช่นว่านั้นต่อศาลฎีกาได้ ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ