คำสั่งคำร้องที่ 1336/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า รับฎีกาเฉพาะประเด็นแรก เนื่องจากเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนฎีกาในประเด็นที่สองเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาในประเด็นที่สอง จำเลยเห็นว่า ฎีกาประเด็นที่สองที่ว่า โจทก์ไม่สุจริตในขณะทำสัญญานายหน้าขายที่ดิน จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะปกปิดราคาที่การประปาส่วนภูมิภาคตกลงซื้อที่ดิน ราคาไร่ละ 28,000 บาทไว้ และบอกจำเลยว่าที่ดินราคาไร่ละ 25,000 บาท จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดก ของนายปลื้ม ทองนวน และฐานะส่วนตัวชำระเงินจำนวน65,542 บาท (หกหมื่นห้าพันห้าร้อยสี่สิบสองบาท) พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันจดทะเบียนโอน(วันที่ 6 และ 27 สิงหาคม 2534) เป็นต้นไปจนกว่าจะ ชำระเสร็จแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินจำนวน 30,150 บาท นับแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2534 ของต้นเงินจำนวน 35,392 บาท นับแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2534 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยทั้ง 2 จำนวน รวมกันคิดถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน818 บาท ตามที่โจทก์ขอมา นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา ในประเด็นที่สองดังกล่าว (อันดับ 112) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 114)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ข้ออ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ของจำเลยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ย่อมต้องอาศัยข้อเท็จจริง ที่ว่า ขณะทำสัญญาโจทก์สุจริตหรือไม่เพื่อการวินิจฉัย ปัญหาข้อกฎหมาย และมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย ของประชาชน การเถียงข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่ยุติและ ต้องห้ามฎีกาเพื่อสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกา ของจำเลยจึงมีผลอย่างเดียวกับการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจำเลย ในข้อนี้ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ

Share