แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากจำเลยได้ค้นพบต้นฉบับใบกำกับสินค้าที่โจทก์ที่ 1 ส่งเพชรมาให้จำเลยได้ภายหลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดีนี้แล้ว ซึ่งจำเลยก็ได้เสนอต่อศาลอุทธรณ์พร้อมกับอุทธรณ์ของจำเลยแล้ว และในระหว่างนั้นศาลแพ่งได้ส่งใบกำกับสินค้าดังกล่าวไปให้ผู้เชี่ยวชาญกรมตำรวจพิสูจน์ลายมือเขียนที่ได้แก้ไขราคาเพชรในคดีของศาลแพ่งหมายเลขแดงที่ 17755/2528 ซึ่งจำเลยที่ 2ในคดีดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีนี้ บัดนี้ผู้เชี่ยวชาญกรมตำรวจได้ตรวจพิสูจน์เสร็จแล้ว ตามรายงานการตรวจพิสูจน์ที่204/2532 ว่า ลายมือเขียนตัวเลขอารบิคจำนวนเงินในใบกำกับสินค้าเมื่อเปรียบเทียบกับลายมือของนายอาจิต คูตารี ตัวแทนโจทก์ที่ 1แล้ว ปรากฏว่าเป็นลายมือของบุคคลคนเดียวกัน ดังนั้นจึงแสดงว่านายอาจิต คูตารี ตัวแทนโจทก์ที่ 1 ได้ลดราคาเพชรให้แก่จำเลยจริงฉะนั้น จึงไม่มีมูลหนี้ที่จำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์อีก เพื่อความเป็นธรรมอย่างถ่องแท้ ขอศาลได้โปรดรับเอกสารคือ ตัวอย่างลายมือที่นายอาจิต คูตารี เขียนไว้ต่อศาล (เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 1) และรายงานการตรวจพิสูจน์ลายมือที่ 204/2532(เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข 2) ไว้เพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสองยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 2,502,976.20 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละห้าต่อปี ในต้นเงิน 2,310,954.90 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ที่ 1 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก คดีสำหรับโจทก์ที่ 2 ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา (อันดับ 152)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 158)
คำสั่ง
ไม่มีเหตุสมควรที่จะรับเอกสารจำเลยไว้ประกอบการพิจารณาตามขอให้ยกคำร้อง