แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 จึงไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า จำเลยฎีกาทั้งในปัญหาข้อกฎหมาย และในปัญหาข้อเท็จจริงในประเด็นว่าจำเลยเป็นผู้ประมาทเลินเล่อตามฟ้องโจทก์หรือไม่ เพราะจำเลยมิได้เป็นผู้กระทำความผิดตามฟ้อง แต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300,390 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(4),157 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อ กฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับ อันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 4 เดือน
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว(ถ้อยคำสำนวน อันดับ 4)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (ถ้อยคำสำนวน อันดับ 1)
คำสั่ง
คำร้องของ จำเลย เป็นคำร้องที่มิได้โต้แย้งหรือคัดค้าน คำสั่งศาลชั้นต้นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายประการใด จึงไม่รับวินิจฉัย คำร้องของ จำเลย ให้ยกคำร้อง