คำสั่งคำร้องที่ 1299/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาข้อ 4 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย จึงให้รับไว้ ส่วนฎีกาข้ออื่น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เนื่องจากคดีนี้มีจำนวนทุนทรัพย์ ไม่เกินสองแสนบาท ฎีกาข้ออื่นจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก จึงไม่รับฎีกาข้ออื่น จำเลยเห็นว่า ตามฟ้องของโจทก์ประเด็นหลักเป็นเรื่อง ขอให้ขับไล่จำเลย จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งขอให้เพิกถอน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ซึ่งมูลคดีเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ แต่การที่ศาลกำหนดให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลโดยตีทุนทรัพย์ เป็นจำนวนเงิน 170,000 บาท เนื่องจากศาลเห็นว่าข้อต่อสู้ และฟ้องแย้งของจำเลยเป็นการต่อสู้เกี่ยวด้วยเรื่องกรรมสิทธิ์ จึงต้องเสียค่าขึ้นศาลในอัตรา 2.5 ของราคาประเมินที่ดิน ตามที่คู่ความทั้งสองได้ประเมิน การดังกล่าวมิได้ทำให้คดี ที่เป็นการปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นเงินได้ เป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ขึ้นมา จำเลยจึงน่าจะฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงได้ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาข้อ 1 ถึงข้อ 3 ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 341 แผ่นที่ 2) โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลย ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่ต้องสืบพยาน แล้วพิพากษา ขับไล่จำเลย ยกฟ้องแย้งของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกายกคำสั่งของศาลชั้นต้น ที่ให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยในประเด็นว่าที่ดินพิพาท หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 993 โจทก์หรือจำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครอง และยกคำพิพากษา ศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลย ในประเด็นดังกล่าวให้สิ้นกระแสความเสียก่อน แล้วมีคำพิพากษาใหม่ ตามรูปคดี ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์จำเลยเสร็จแล้ว พิพากษาขับไล่จำเลยออกจากที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 993(1206) ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และรื้อถอนรั้ว โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินพิพาท ยกฟ้องแย้งของจำเลย ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 นายกมลแจวเจริญทายาทโดยธรรมของนางวนิดาแจวเจริญ จำเลย ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่จำเลยผู้มรณะ (อันดับ 326) แต่ไม่ปรากฏคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 3 ในสำนวน ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาข้อดังกล่าว(อันดับ 331) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 337)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินของโจทก์จำเลยให้การต่อสู้คดีและฟ้องแย้งว่าที่ดินพิพาทเป็นของจำเลย ขอให้ห้ามโจทก์มิให้คัดค้านการขอออกโฉนดที่ดิน ของจำเลย อันเป็นการเถียงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จึงเป็นคดี มีทุนทรัพย์เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ราคาทรัพย์สินหรือ จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทคดีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก ที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาจำเลยในข้อเท็จจริงจึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share