คำสั่งคำร้องที่ 1282/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นเรื่องโต้แย้งการใช้ดุลยพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าการที่พยานโจทก์เบิกความขัดแย้งกันในเรื่องที่เกี่ยวกับการแสดงหมายค้นก็ดี เกี่ยวกับชั้นวางของและเวลาทำการตรวจค้นก็ดีไม่เป็นข้อแตกต่างกันในพลความ แต่เป็นข้อแตกต่างกันในข้อสำคัญฎีกาของจำเลยไม่มีส่วนใดหรือข้อใดที่โต้แย้งดุลยพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์เลย จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 44)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 67 ประกอบมาตรา 4,7,8 และ 15 ฯลฯ ลงโทษจำคุก 2 ปี ของกลางริบจำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 43)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 44)

คำสั่ง
ปัญหาที่ว่าพยานให้การแตกต่างกันในพลความหรือแตกต่างกันในสาระสำคัญจะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ ไปจึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share