แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาต่อศาลออกไปอีก 15 วัน นับแต่วันครบกำหนดยื่นฎีกาโดยอ้างว่ามีพฤติการณ์พิเศษ เนื่องจากโจทก์ได้แต่งตั้งทนายโจทก์คนใหม่และภูมิลำเนาโจทก์ได้ย้ายไปอยู่ที่แห่งใหม่ พนักงานศาลส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ทนายโจทก์คนเดิมทราบและทนายโจทก์คนเดิมนำสำนวนคดีนี้มาส่งคืนให้กับโจทก์ในภายหลังและศาลมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลาได้นั้น จำเลยเห็นว่า การที่โจทก์ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่แห่งใหม่และเปลี่ยนทนายโจทก์คนใหม่เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องแจ้งให้ศาลทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเข้าไว้ในสำนวน เพื่อประโยชน์ของโจทก์เองในการติดต่อระหว่างศาลกับโจทก์ทั้งโจทก์ย่อมรู้ล่วงหน้าและเรียกสำนวนคดีจากทนายโจทก์คนเก่าคืนได้ก่อนหน้านั้น แต่โจทก์เพิกเฉยมิได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับผลส่วนได้ส่วนเสียของโจทก์เองในคดีเลยพฤติการณ์เช่นนี้จึงไม่ถือเป็นพฤติการณ์พิเศษที่โจทก์จะขอขยายระยะเวลาได้ ขอศาลฎีกาโปรดมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งศาลที่ให้โจทก์ขยายระยะเวลายื่นฎีกาและมีคำสั่งไม่รับฎีกาโจทก์
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 99)
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินจำนวน 500,000 บาทกับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี คิดจากต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2526 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ดอกเบี้ยก่อนฟ้องต้องไม่เกิน 21,874 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่23 เมษายน 2530
โจทก์ยื่นคำร้องลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2530 ขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาออกไปอีก 15 วัน นับแต่วันที่ครบกำหนดระยะเวลายื่นฎีกาอ้างว่ามีพฤติการณ์พิเศษ ศาลชั้นต้นอนุญาต (อันดับ 91)
โจทก์ฎีกา (อันดับ 93)
จำเลยยื่นคำแก้ฎีกา (อันดับ 95)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
จำเลยยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 97)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ปัญหาเรื่องขยายระยะเวลายื่นฎีกานี้จะได้วินิจฉัยเมื่อมีคำพิพากษา