แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,80 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ72,72 ทวิ ฯลฯ ให้ลงโทษจำเลยทุกกระทงความผิด ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม ลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจำคุก 7 ปี 6 เดือน ฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ฐานพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน รวมโทษจำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในความผิดทั้งสองฐานนี้ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน รวมโทษจำคุกจำเลยทั้งสิ้นมีกำหนด 8 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า สำหรับข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้น ลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยในข้อหานี้ 6 ปี 8 เดือน รวมโทษจำคุกในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาตตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นอีก 6 เดือนรวมเป็นจำคุกทั้งสิ้น 7 ปี 2 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบ(อันดับ 108,109 แผ่นที่ 3 และที่ 2)
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราว โดยศาลอุทธรณ์ตีราคาประกัน 300,000 บาท (อันดับ 76)
จำเลยเคยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวมาแล้วครั้งหนึ่ง ศาลฎีกาสั่งให้ยกคำร้อง (อันดับ 106)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยกำลังศึกษาและยื่นฎีกาแล้ว จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา ตีราคาประกันห้าแสนบาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป