แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของ จำเลยเป็นอุทธรณ์ในลักษณะข้อกฎหมาย โดยให้รับฟังข้อเท็จจริง ว่าโจทก์ลักทรัพย์ของจำเลย อันเป็นการฝ่าฝืนกับคำพิพากษา ของศาลแรงงานกลาง เป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงเพื่อนำไป สู่ปัญหาข้อกฎหมาย ถือว่าเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและ วิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 จึงไม่รับอุทธรณ์ ของจำเลย
จำเลยเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการรับฟัง พยานหลักฐาน โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 86)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยรับโจทก์เข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่และอัตราค่าจ้างไม่ต่ำกว่าเดิม ขณะมีคำสั่งเลิกจ้าง โดยให้นับอายุงานใหม่ของโจทก์ติดต่อกับอายุงานที่คำนวณถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2533 ซึ่งเป็นวันก่อนวันเลิกจ้างโจทก์เป็นต้นไป
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 82)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 84)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ที่โต้เถียงดุลพินิจการรับฟังข้อเท็จจริงของศาลแรงงานกลาง จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำพิพากษาฎีกาที่ 2418/2523 ที่จำเลยอ้างมาในคำร้อง ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง