คำสั่งคำร้องที่ 1260/2541

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ทั้งสอง ภายหลังที่ศาลชั้นต้นชี้สองสถานแล้ว โดยโจทก์ทั้งสองมิได้แสดงให้เห็นว่ามีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถาน เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 61,061 บาทและโจทก์ที่ 2 เป็นจำนวนเงิน 4,419 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน64,480 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันทำละเมิดไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 60,261 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการพิจารณารับบัญชีระบุพยานของโจทก์ที่ยื่นเกินกำหนด และเกี่ยวกับประเด็นเรื่องประมาทเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีมีทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามฎีกาจึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาว่าการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับบัญชีระบุพยานและสำเนาพยานเอกสารของโจทก์ทั้งสอง ภายหลังจากศาลได้นัดชี้สองสถานแล้วโดยที่โจทก์ทั้งสองก็มิได้ยื่นคำร้องอ้างเหตุจำเป็นแต่อย่างใด จึงเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นคำสั่งที่ผิดระเบียบ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ขอให้มีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งสองด้วย
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้ว การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับบัญชีระบุพยานของโจทก์ทั้งสอง ภายหลังที่ศาลชั้นต้นชี้สองสถานแล้วโดยโจทก์ทั้งสองมิได้แสดงให้เห็นว่ามีเหตุอันสมควรที่ไม่สามารถยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันชี้สองสถานเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย จึงให้รับฎีกาจำเลยทั้งสองไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป”

Share