แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 364,365(2) เสีย คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์มีผลเป็นการพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงเป็นการแก้ไขมากไม่ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 157,158)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358,364 ประกอบมาตรา 365(2),83 ข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ วางโทษปรับคนละ 500 บาท ข้อหาบุกรุก วางโทษ จำคุกคนละ 6 เดือน และปรับคนละ 1,000 บาทรวมจำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 1,500 บาท โทษจำคุกเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์ แห่งคดีแล้วเห็นสมควรให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 1 ปี ไม่ชำระ ค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29,30
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิด ฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364,365(2) เสีย นอกจาก ที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 151)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 155)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว สำหรับความผิดฐานบุกรุก ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสอง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง จึงไม่ต้องห้าม ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์นั้นเป็น การไม่ชอบ ให้รับฎีกาของโจทก์แล้วดำเนินการต่อไป