แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันใน ชั้นฎีกาในคดีนี้คือที่พิพาทเฉพาะส่วนของ นายดาบตำรวจเลี่ยม สินธุมา ซึ่งมีจำนวนเพียงครึ่งหนึ่งของที่พิพาททั้งหมดดังนั้นทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาจึงไม่เกิน สองแสนบาท ฎีกาของจำเลยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรก จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า คดีนี้จำเลยต่อสู้คดีทั้งบ้านพิพาทและที่ดิน ทั้งแปลงถือว่าคดีมีทุนทรัพย์ราคา 280,000 บาท จำเลยจึงฎีกา ได้ตามกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้ พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยและบริวารออกไป จากบ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 3 ตำบลสวนแตง และที่ดินตามโฉนดเลขที่ 25 ตำบลสวนแตง อำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี และห้ามเข้า มาเกี่ยวข้องอีกต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 80)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 82)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ชั้นฎีกาคงพิพาทเฉพาะที่ดินส่วนของ ดาบตำรวจเลี่ยมจึงมีทุนทรัพย์ไม่เกินสองแสนบาท คดีต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรกแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2534มาตรา 18 ฎีกาของจำเลยดังกล่าวเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของ จำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง