แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยให้ครบประเด็นว่าจำเลยเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดมิใช่เป็นตัวการตามฟ้องนั้นปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยร่วมเป็นตัวการกระทำความผิดจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงฎีกาว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงฎีกาว่าข้อตกลงระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยต่อพนักงานสอบสวนทำให้คดีระงับหรือไม่นั้น. แม้จะเป็นปัญหาข้อกฎหมายแต่จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดอันยอมความไม่ได้ข้อกฎหมายนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยค่าเสียหายให้ตามควรแก่พฤติการณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยค่าเสียหายตามข้อเท็จจริงในสำนวนจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงฎีกาว่าการกระทำผิดเกิดเฉพาะเวลากลางวันลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ไม่ได้นั้น ปรากฏว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ร่วมกระทำความผิดกับผู้อื่นจึงลงโทษจำเลยตาม มาตรา 355 จึงไม่มีข้อกฎหมายที่จะต้องวินิจฉัย